Goji Kitchen + Bar

Goji Kitchen + Bar จัดโปรโมชั่นพิเศษ The Taste of Korea เพิ่มอาหารเกาหลีเข้ามาในไลน์บุฟเฟ่ต์ ที่ปกติก็มีมากมายอลังการอยู่แล้ว ให้มากขึ้นไปอีก โดยฝีมือเชฟ Jong Cheol Shin จาก Seoul, Korea

Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park

199 Sukhumvit Soi 22, Klong Ton, Klong Toey, Bangkok, Thailand 10110
Tel. +662 059 5999
www.facebook.com/GojiKitchenAndBar/

ห้องอาหาร Goji Kitchen + Bar โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park มีชื่อเสียงมากเรื่องไลน์บุฟเฟ่ต์ใหญ่ หลากหลาย คุณภาพดี พรีเมียม เหมาะสมกับราคา โดยเฉพาะ Sunday Brunch Buffet บุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารมากที่สุดในสัปดาห์ หรือจะเป็น Saturday Brunch Buffet ที่ราคาย่อมเยากว่า แต่อาหารยังคงความพรีเมียม เพียงแค่ปริมาณอาหารจะน้อยกว่าวันอาทิตย์เท่านั้นเอง ท่านนี้คือ Chef Michael Hogan เป็น Executive Chef ประจำโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค

The Taste of Korea

ครั้งนี้มีเชฟรับเชิญมาจาก JW Marriott Seoul ประเทศเกาหลี Chef Jong Cheol Shin ซึ่งเป็น Executive Chef ที่นู่น มาจัดทำ promotion ใหม่ The Taste of Korea ที่มีเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น และพิเศษยิ่งกว่า เมื่อเชฟ Shin จัด Kimchi workshop เวิร์คช็อปสอนทำกิมจิสไตล์เกาหลีแท้ ซึ่งบุ๊งมีโอกาสได้ไปเข้าร่วมหัดทำกิมจิเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีทางพลาดแน่นอนค่ะ

Kimchi workshop

เวิร์คช็อปครั้งนี้ ทางเชฟจัดเตรียมอุปกรณ์ วัตถุดิบทุกอย่างมาให้พร้อม นำเข้ามาจากเกาหลีกันเลย เมื่อมาถึง ingredients ต่าง ๆ ถูกเตรียม ตวง ไว้พร้อม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เชฟก็เริ่มสอนว่า ขั้นตอนการทำกิมจิต้องเริ่มจากเตรียมผักกาดขาวอย่างไร ใช้เวลานานเท่าไหร่ รวมถึงต้องเตรียมส่วนผสมพริกเกาหลีที่จะเอามาใช้หมักกิมจิ ว่ามีอะไรบ้าง หาซื้อได้ที่ไหน ฯลฯ

พพริกเกาหลีที่จะนำมาหมักกิมจิ ควรผสมแล้วพักไว้หนึ่งวัน เพื่อรสชาติที่เข้มข้นขึ้น ดังนั้นทางเชฟจึงเตรียมไว้ให้แล้ว แต่ก็มีบอกส่วนผสมว่า ต้องใส่อะไรบ้าง ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นอะไรที่หาได้ไม่ยากในบ้านเรา

ขวดนี้แหละที่ต้องไปหาซื้อแถว Korean Town

มีไหเตรียมไว้ด้วย บุ๊งชอบไหนี้มาก อยากเอากลับบ้านเลย อิอิ

หลังจากเตรียมพริกเกาหลีพร้อม (ล่วงหน้าหนึ่งวัน) ส่วนประกอบหลักที่สำคัญมากคือ ผักกาดขาว ก่อนจะนำมาหมักต้องล้างและหมักน้ำเกลือก่อนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

ด้วยความที่ต้องเตรียมผักกาดขาวล่วงหน้า เชฟก็จัดเตรียมไว้ให้เราแล้วเช่นกัน

หลังจากที่สอนทำจนเสร็จกระบวนการทุกอย่าง ก็ถึงตาบุ๊งทำเองที่ station ของบุ๊งเองบ้างแล้ว เชฟเดินมาดู แถมบอกว่า Very good ด้วย อิอิ (เป็นคนบ้ายอ)

แต่จริง ๆ คือมันทำไม่ยากเลยค่ะ ขั้นตอนที่นานคือตอนที่รอให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าที่พร้อมหมักมากกว่า

เสร็จแล้ว กิมจิของบุ๊ง เชฟบอกว่าจะกินตอนนี้เลยก็ได้ แต่รสชาติจะออกเค็มนำ ปกติก็คือเอาใส่โหลเข้าตู้เย็น หมักไว้สักเดือนนึงกำลังดี จะทำให้กิมจิมีรสเปรี้ยวมากขึ้น

อันนี้คือกระปุกที่จะเอาไว้ใส่กิมจิกลับบ้าน

ส่วนไหใบนี้มีไว้โชว์ที่โรงแรม ถ้าใครเดินผ่านไป ผ่านมาที่ Goji Kitchen + Bar แล้วเห็นไหแบบนี้ มีเขียนชื่อ Boonk Close To Heaven คือของบุ๊งเองนะคะ

หลังจากทำกิมจิเสร็จเรียบร้อย เชฟก็สอนวิธีการปรุงอาหารจากกิมจิอีก 2 เมนู นั่นคือ Kimchi Stew หรือซุปกิมจิ และ Bibimbab บิบิมบับ ที่เราคุ้นเคยกันดี สำหรับอาหารเกาหลี

Bibimbab

กระทะนี้สิ สุดยอดมาก เป็น Giant Bibimbab ให้ทุกคนร่วมมือร่วมแรงกันทำบิบิมบับ

ใหญ่แค่นี้เองแหละ ขอบอก

Friday dinner buffet

เสร็จสิ้นจาก workshop ก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี ตั้งแต่ที่เชฟให้เริ่มทำกิมจิบุ๊งก็หิวแล้ว เพราะกลิ่นกิมจิหอมเตะจมูกมาก เราไปต่อกันที่ บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นที่ห้องอาหาร โกจิ คิทเช่น + บาร์ ช่วงวันที่ 14 – 25 ส.ค. 2562 จัดโปรโมชั่น The Taste of Korea เพิ่มไลน์อาหารเกาหลี เข้าไปในไลน์บุฟเฟ่ต์ปกติ ซึ่งทำให้อาหารหลากหลายมากขึ้นไปอีก เรามา focus กันที่ เมนูอาหารเกาหลี ที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่