Fireplace Grill and Bar | Steakhouse เก่าแก่ อันดับแรก ๆ ในกรุงเทพฯ

Fireplace Grill and Bar | Steakhouse เก่าแก่ อันดับแรก ๆ ในกรุงเทพฯ เสิร์ฟสเต็ก และ อาหารสไตล์ยุโรปสุดคลาสสิค ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม

Fireplace Grill and Bar
InterContinental Bangkok

973 Ploenchit Road Bangkok 10330 Thailand
Tel. +66 2656 0444
https://www.facebook.com/fireplacegrillandbar/

Opening hours: 
Lunch: 12 pm – 2 .30 pm
Dinner: 6 pm – 11 pm

Fireplace Grill and Bar หนึ่งในร้าน steakhouse เก่าแก่ของประเทศไทย เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1966 เท่ากับตอนนี้เปิดมาได้เกือบ 60 ปีเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่ที่โรงแรม InterContinental Bangkok ราชประสงค์  หากใครมาทาง BTS ให้ลงที่สถานี Chidlom (ชิดลม) แล้วจะมีป้ายบอกทางมาที่โรงแรมค่ะ  ห้องอาหารเปิดทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น  เดินเข้ามามีกลิ่นอายของความเป็นสเต็กเฮ้าส์แบบคลาสสิคอยู่เต็มเปี่ยม  ครัวเป็นแบบเปิดตั้งอยู่ตรงกลางห้องอาหาร สามารถไปยืนดูเชฟปรุงอาหารได้ตลอดเวลา  แต่ไม่มีควันหรือกลิ่นมารบกวนเวลาทานอาหารแต่อย่างใด  

ทางเข้าร้าน Fireplace Grill and Bar

บาร์เครื่องดื่ม

โถงทางเดิน

ตอนแรกคิดว่าห้องอาหารจะมืด แต่ไปช่วงกลางวัน สว่างดีเลยค่ะ

Private room

ห้องไพรเวทสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่และอยากได้ความเป็นส่วนตัว รองรับได้ 10 ที่นั่ง วันนี้เราจะนั่งในห้องนี้

ห้อง private อีกห้อง

Executive Chef

Chef Gataeno Palumbo เป็น Executive Chef คนล่าสุดของโรงแรม  บุ๊งรู้จักเชฟมานานหลายปีเลยค่ะ

เครื่องดื่มที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย กว่า 300 ฉลาก  โดยสามารถสั่งผ่าน tablet เลือกได้เองตามชอบ

Welcome breads

สั่งอาหารเสร็จ ขนมปังก็มาเสิร์ฟทันที  มี 2 แบบคือ foccaccia แป้งสีขาว ฟูนุ่ม  และ Farmer bread เป็นขนมปังข้าวไรย์

เนยสดแบบไม่เค็มจากฝรั่งเศส และ เนยผสมทรัฟเฟิล

Appetizers

Angus Beef Tartare 750 B

เนื้อแองกัสนำเข้าจาก Queensland, Australia แบบดิบ นำมาสับละเอียดด้วยมือ ทำด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ไม่ได้ใช้เครื่องบดค่ะ เชฟสับได้ละเอียดมาก นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องต่าง ๆ เสิร์ฟแบบดิบและเย็นจัด  ด้านบนท็อปด้วยไข่แดงของไข่นกกระทา รสออกเปรี้ยวนำและเค็มตาม  เสิร์ฟพร้อม Thousand-layer potatoes หรือ Potato Pave มันฝรั่งพันชั้น ก็คือมันฝรั่งนำไปฝานเป็นแผ่นบางเฉียบ นำมาซ้อนเป็นชั้น นำไปอบและทอดอีกที

เวลาจะกินก็คลุกเคล้าไข่แดงให้ทั่ว

กินเย็น ๆ สดชื่นมากค่ะ

Jumbo Shrimp Cocktail 750 B

กุ้งลายเสือตัวใหญ่มาก นำไปลวกจนสุกกำลังดี  ต้องบอกเลยว่าเชฟปรุงได้เป๊ะมาก เพราะกุ้ง เนื้อสด หวาน กรอบ เด้ง ไม่แข็งหรือเหนียวเลยแม้แต่น้อย เสิร์ฟแบบเย็นจัด กับซอสค็อกเทลสูตรพิเศษของเชฟ  ทำจากมะเขือเทศ horseradish และใส่ gin ลงไปผสมเล็กน้อย  ตัวซอสมีรสเปรี้ยวนำ หวานนิด ๆ จากมะเขือเทศ ได้รสเผ็ดเล็กน้อยจาก horseradish ค่ะ

ตัวใหญ่มากจริง

ใส่ซอสสักหน่อย

อยากให้ดูความสุกด้านในว่า กำลังดีมาก

Escargots à la Bourguignonne 950 B

เอสคาโก หรือ หอยทากฝรั่งเศส นำเข้าจาก Burgundy, France เลยค่ะ  จานนี้เชฟนำหอยทากไปอบกับเนย กระเทียม และ สมุนไพร เสิร์ฟพร้อม toast กรอบ ๆ เป็นเมนูอาหารฝรั่งเศสที่คลาสสิคมาก

เวลากินก็ใช้อุปกรณ์ช่วยคีบออกมาแบบนี้

หอยทากอบเนยกระเทียม นุ่ม หวาน

Soup

French Onion Soup 450 B

ซุปหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศส  ใช้น้ำซุปเนื้อที่เคี่ยวเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง  ใส่หอมใหญ่ที่ผัดจนนุ่มและ caramelized เป็นสีน้ำตาล  หอมใหญ่ที่ผัดสุกแบบนี้จะรสหวานฉ่ำมาก  ใส่สมุนไพรและ cognac ด้านบนท็อปด้วย โทสต์อบกับ Gruyere cheese  เป็นจานที่ทั้ง Otto และ Owen ชอบมาก

From the grill

Stanbroke Farms M6 Sanchoku Wagyu 3,200 B

จานพระเอกของมื้อนี้เลยค่ะ  สเต็กเนื้อส่วน Striploin marbling score 6 เป็นเนื้อ Sanchoku เนื้อญี่ปุ่นเลี้ยงที่ฟาร์ Stanbroke ออสเตรเลีย  น้ำหนัก 300 กรัม  ความพิเศษคือ เชฟนำเนื้อไปหมักกับชีส Stilton จากอังกฤษ เป็นเวลา 15 วัน  Stilton เป็นชีสคล้าย blue cheese ทำให้สเต็กมีกลิ่นหอมแบบเป็นเอกลักษณ์ 

อีกอย่างที่ต้องชมคือ เชฟย่างสเต็กได้ความสุกตามที่ต้องการเลยค่ะ

อร่อยมากจริง ๆ เราสามารถเลือกซอสได้ 1 อย่าง อันนี้บุ๊งเลือกเป็น red wine sauce มาค่ะ

เนื้อสตริปลอยน์ความสุก medium rare แบบที่ชอบ

มัสตาร์ด 4 ชนิด สำหรับกินกับ steak ส่วนสีเขียวคือ mint jelly เอาไว้กินกับซี่โครงแกะ

เกลือ 2 แบบ  อันนึงคือ smoked salt ที่นี่ทำเอง นำเกลือไปรมควันกับไม้มะขาม มีกลิ่นหอมพิเศษ อีกขวดคือ sea salt

Main course

Butter Roasted Nova Scotia Lobster 2,500 B

ปกติบุ๊งเป็นคนชอบกินเนื้อมากกว่าอาหารทะเล  คือถ้าให้เลือก 2 อย่างนี้ จะเลือกเนื้อเสมอ  แต่ที่นี่ต้องบอกเลยว่า กุ้ง lobster เค้าทำได้ดีมากจริง ๆ 

กุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ น้ำหนัก 750 g นำเข้าจาก Nova Scotia, Canada ซึ่งเป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับกุ้ง lobsters โดยเฉพาะ

จานนี้เชฟนำกุ้งไปอบกับ เนย กระเทียม สมุนไพร และ พริกเซอร์ราโน  ใส่ส้มด้วย ทำให้มีกลิ่น citrus หอม ๆ

จานนี้ทำได้ดีมากจริง ๆ ค่ะ เชฟอบได้สุกกำลังดี เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ หวาน ฉ่ำ มีความกรอบนิด ๆ ไม่สุกเกินไป คืออร่อยมาก

Wammco Lamb Rack 2,400 B

ซี่โครงแกะออสเตรเลีย จาก Wammco ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนเนื้อแกะออสเตรเลียโดยเฉพาะ  จานนี้ซี่โครงแกะ น้ำหนัก 280 g ย่างได้สุกกำลังดี เนื้อแกะนุ่ม ไม่มีกลิ่นสาบ เสิร์ฟพร้อม red wine jus 

Fresh line-caught Dover Sole 2,100 B

ปลาโดเวอร์โซล จากฝรั่งเศส  เป็นปลาที่นิยมนำมาเสิร์ฟในร้านอาหารสไตล์ยุโรป  เนื้อปลานุ่ม แต่แน่น  เสิร์ฟพร้อม  broccolini และเลมอนย่าง

จานนี้เชฟใช้วิธีค่อย ๆ ตักน้ำมันราดบนตัวปลาจนด้านบนมีความกรอบนิด ๆ 

เสิร์ฟพร้อมซอสเนยกระเทียม สมุนไพร

จานนี้ของอ๊อตโต้ค่ะ

กินเกลี้ยง

Side dishes 250 B

Mushrooms in cognac cream 

บุ๊งชอบอันนี้ เห็ดผัดซอสครีม มีกลิ่นหอมคอนยัค

Black truffle creamy spinach

ผักโขมอบชีสทรัฟเฟิล

Classic potato gratin

มันฝรั่งกราแตงของโอเว่น มันฝรั่งนุ่มมาก

Dessert

Crêpes Suzette 450 B

ขนมหวานฝรั่งเศสสุดคลาสสิค  เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก เครปชูเซ็ท  เค้าจะมาทำแบบสดใหม่ให้ที่โต๊ะเลยค่ะ

Flambé แอลกอฮอล์ เพิ่มกลิ่นหอม

ซอสทำจากน้ำส้มสด

จากนั้นใส่น้ำมันผิวส้มเพิ่มความหอม

เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวนิลา เนื้อส้มสด และ สตรอเบอร์รี่สด  เครปแผ่นบาง แป้งนุ่มมาก ๆ ซอสมีกลิ่นหอมส้ม สดชื่นค่ะ

Mignardise

Chocolate Bon Bons

จานนี้เป็น complimentary จาก chef มันก็คือ ไอศกรีมวนิลาเคลือบด้วย dark chocolate และ white chocolate เป็นการปิดท้ายมื้อ

ได้กันคนละ 2 แท่ง

Enjoy กันมากทั้งสามคนเลย

รีวิวอื่น ๆ ณ InterContinental Bangkok

• Seafood dinner buffet @ Espresso
• SoCal Bangkok
• Sunday Brunch Buffet @ Espresso
• ALL-YOU-CAN-EAT บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ @ Summer Palace

Until next time…